วัดไชยชุมพลชนะสงคราม

 วัดไชยชุมพลชนะสงคราม

วัดไชยชุมพลชนะสงคราม  หรือ  ชื่อที่ชาวจังหวัดกาญจนบุรีเรียกขานอีกนามหนึ่งว่า วัดใต้ ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี  ชนิดสามัญ เมื่อวันที่  ๒๐ พฤศจิกายน  ๒๕๒๑   ตั้งอยู่เลขที่  ๒๒๗  ถนนไชยชุมพล   ตำบลบ้านใต้   อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี  สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย  พื้นที่ที่ตั้งวัดมีเนื้อที่  ๔๔  ไร่ ๒ งาน ๘๑  ตารางวา   โดยมีเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน  เป็นโฉนดเลขที่  ๑๔๓๔  เล่มที่  ๑๕  หน้า  ๓๔  เลขที่ดิน  ๖๒  หน้าสำรวจ  ๓๘๕

วัดไชยชุมพลชนะสงคราม ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา  เมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ.๒๔๘๔  พระอุโบสถหลังเก่าได้ผูกพัทธสีมาเมื่อปีใดไม่มีหลักฐานยืนยัน   ส่วนพระอุโบสถหลังใหม่ได้ทำพิธีผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์  พ.ศ. ๒๕๐๗ มีเขตวิสุงคามสีมากว้าง  ๔๐เมตร ยาว ๘๐ เมตร

วัดไชยชุมพลชนะสงคราม

ประวัติความเป็นมาของวัดไชยชุมพลชนะสงคราม 

วัดไชยชุมพลชนะสงคราม  (วัดใต้)   ตำบลบ้านใต้  อำเภอเมืองกาญจนบุรี  ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำแม่กลอง   ด้านทิศตะวันออก  อยู่ห่างทางใต้จากจุดแม่น้ำแคว  ๒  แคว ไหลมาบรรจบกันประมาณ  ๑๐  เส้น  ตำบลที่ตั้งวัดอยู่เดิมเรียกว่า “ตำบลปากแพรก”   ที่เรียก  ดังกล่าว  เนื่องจากแพรกแห่งลำน้ำทั้งสองคือ  แควไทรโยค (แควน้อย) กับแควศรีสวัสดิ์ (แควใหญ่) ไหลมาบรรจบรวมเป็นสายเดียวกัน  เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำแม่กลอง   จึงเรียกตำบลนี้ว่า  “ตำบลปากแพรก”  มาแต่โบราณ   

วัดไชยชุมพลชนะสงคราม 
บริเวณท่าน้ำหลังวัด  เป็นเขตอภัยทาน มีแพสำหรับให้อาหารปลา

ที่มาของชื่อ " วัดใต้ "

ในสมัยรัชกาลที่ ๑  แห่งกรุงรัตนโกสินทร์  พ.ศ.  ๒๓๒๘   พระเจ้าปะดุง (พม่า)  ยกทัพใหญ่มาตีเมืองไทย  กำลังส่วนใหญ่ของพม่าเข้ามาทางด่านพระเจดีย์สามองค์ ตรงเข้ามายังเมืองกาญจนบุรี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้โปรดเกล้าฯ  ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอกรมพระราชวังบวรสถานมงคล   ยกทัพไปตั้งรับที่ตำบลลาดหญ้า  ริมเขาชนไก่  ลงมาตั้งที่ตำบลปากแพรกแห่งนี้  ทางด้านฝั่งซ้ายของแม่น้ำ  ตรงที่แควทั้งสองไหลมาบรรจบกันนี้เอง  ต่อมาปี  พ.ศ.  ๒๓๗๔  ในรัชกาลที่  ๓  แห่งกรุงรัตนโกสินทร์  ได้โปรดฯ  ให้ก่อสร้างกำแพงเมืองและป้อมปราการขึ้นเป็นอย่างถาวร  ห่างจากริมริมฝั่งประมาณ  ๓  เส้นเศษ(ปรากฏซากกำแพงเมืองบางส่วนในปัจจุบันนี้)

ประตูเมืองกาญจน์
ตั้งแต่นั้นมา  วัดและหมู่บ้านที่อยู่ในบริเวณตัวเมือง  วัดใดบ้านใดที่อยู่ด้านเหนือเมืองชาวบ้านก็เรียกว่า  “วัดเหนือ  บ้านเหนือ”  วัดใดบ้านใดที่อยู่ด้านใต้เมืองชาวบ้านก็เรียกว่า  “วัดใต้  บ้านใต้”  บ้านใต้ตั้งแต่ครั้งนั้นเป็นต้นมา   ต่อมาภายหลังตำบลปากแพรกได้แยกเขตการปกครองออกเป็น  ๓ ตำบลได้แก่ตำบลบ้านเหนือ   ตำบลบ้านใต้   ตำบลปากแพรก  จนถึงปัจจุบันนี้ (ตำบลบ้านเหนือและตำบลบ้านใต้อยู่ในเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี)

อนึ่งวัดไชยชุมพลชนะสงคราม  (วัดใต้)  นับเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดกาญจนบุรีมาแต่โบราณกาลวัดหนึ่ง  หาประวัติเป็นที่แน่นอนไม่ได้ว่าสร้างมาตั้งแต่เมื่อใด ใครเป็นผู้สร้างกันแน่   อาศัยทราบจากผู้เฒ่าเล่าต่อกันมาว่า *"พระยาตาแดง"   เป็นผู้สร้าง   แต่จะเป็นการสร้างขึ้นใหม่  หรือซ่อมแซมบูรณะต่อเติมจากของเดิมซึ่งมีอยู่มาก่อนแล้วก็ได้   ทั้งนี้เพราะทราบกันแต่คำบอกเล่าต่อๆกันมาเท่านั้น  จะเท็จจริงประการใดยังไม่มีหลักฐานหรือตำนานการสร้างวัดนี้ 

 

* พระยาตาแดง หรือ  พระยากาญจนบุรีในสมัยนั้นชื่อพระยาประสิทธิสงคราม  นามเต็มว่า  พระยาประสิทธิสงครามรามภักดีศรีพิเศษประเทศนิคมภิรมย์ราไชยสวรรค์  พระยากาญจนบุรี  นามเดิมไม่ปรากฏแต่มีฉายาตามที่เรียกกันว่า “พระยาตาแดง  หรือ  เจ้าเมืองตาแดง”  เดิมเป็น  ที่พระราชวรินทร์  เจ้ากรมพระตำรวจและได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีคนที่  ๒   ของเมืองกาญจนบุรี  เมื่อ  พ.ศ.  ๒๓๖๘  พระยาประสิทธิสงครามหรือเจ้าพระยาตาแดงผู้นี้เป็นผู้ดำเนินการสร้างป้อมปราการและกำแพงขึ้นใหม่และเสร็จในปี  พ.ศ.  ๒๔๗๕  ปรากฏในอักษรได้จารึกหลักศิลาเมืองกาญจนบุรี อันเป็นประกาศพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๓   

วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้)  เป็นวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ระหว่างสงครามไทยรบกับพม่ามาแต่โบราณ  ส่วนมากทัพพม่าจะต้องยกทัพมาทางด่านพระเจดีย์  ๓  องค์  ผ่านตรงเข้าจังหวัดกาญจนบุรีแทบทุกครั้ง   และกองทัพไทยที่ยกออกไปต่อต้านทัพพม่าก็จะต้องมาพักแรมประชุมพลที่ตำบลปากแพรก  หรือบริเวณอาณาเขตวัดไชยชุมชนะสงคราม   แทบทุกครั้งไป  ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก  รัชกาลที่  ๑   แห่งราชวงศ์จักรี  ไทยได้ทำสงครามกับพม่าและมีการสู้รบกันที่จังหวัดกาญจนบุรี   ๒   ครั้ง  ดังนี้

๑.ไทยรบชนะพม่าที่ทุ่งลาดหญ้า (กาญจนบุรีเดิม)  ช่วงสงคราม  ๙  ทัพ  ในปี  พ.ศ.  ๒๓๒๘ก่อนออกศึกสงครามที่แล้วจะต้องได้รับชัยชนะทุกครั้งไป

๒.ไทยรบชนะพม่าที่บ้านท่าดินแดง (ตำบลปรังเผล  อำเภอสังขละบุรี  ในปัจจุบัน)  พ.ศ. ๒๓๒๙ในการรบกับพม่าทั้งสองครั้งนี้  ตามตำนานประวัติศาสตร์  ได้บันทึกไว้ว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ ๑)  พร้อมด้วยพระอนุชาธิราช  กรมพระราชวังบวรสถานมงคล  ได้ทรงประชุมพลเหล่าทหารกล้า  ณ  ตำบลปากแพรก (บริเวณวัดไชยชพลชนะสงคราม)  ก่อนออกศึกสงครามทุกครั้ง แล้วจึงยกกองทัพออกสู่สมรภูมิรบ  ได้รับชัยชนะทั้ง  ๒  ครั้ง   เมื่อมีการประชุมพลที่นี่แล้วออกศึกสงครามได้รับชัยชนะกลับมาทุกครั้ง  จึงเป็นที่มาแห่งนามวัดว่า  “วัดไชยชุมพลชนะสงคราม”   อันหมายถึงเมื่อมีการประชุมพลก่อนออกศึกสงครามที่แล้วจะต้องได้รับชัยชนะทุกครั้งไป

 

ถึงปากแพรกซึ่งเป็นที่ประชุมพล          พร้อมพหลพลนิกรน้อยใหญ่
ค่ายคูเขื่อนขัณฑ์ทั้งนั้นไซร์                สารพัดแต่งไว้ทุกประการ
จึงรีบรัดจัดโดยขบวนทัพ                   สรรพด้วยพยุหทวยหาญ
ทุกหมู่หมวดกันไว้พร้อมการ               ครั้นได้ศุภวารเวลา
ให้ยกรื่นตามทางไทรโยคสถาน           ทั้งบกเรือล้วนทหารอาสา
จะสังหารอริราชพาลา                       อันสถิตอยู่ยังท่าดินแดง 
 

 วัดไชยชุมพลชนะสงคราม
อุโบสถหลังเก่า

 
ที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม  มีพระเจดีย์เก่าแก่องหนึ่งอยู่ใกล้พระอุโบสถหลังเก่า ตั้งอยู่ริมตลิ่งพระเจดีย์องค์นี้มีชื่อทางโบราณคดี  กรมศิลปากรได้จัดขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้ (ตามประกาศครั้งที่  ๑  ในราชกิจจานุเบกษา  เล่ม  ๕๒  ลงวันที่  ๒๕ กุมภาพันธ์  พ.ศ.  ๒๔๗๘)  ว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี เรียกว่า “เจดีย์โบราณวัดไชยชุมพลชนะสงคราม”    ในสมัยโบราณกองทัพไทยได้เคยชุมพลเหล่าทหารที่ทะแกล้วร่วมพิธีตั้งศาลเพียงตาบวงสรวงเทพารักษ์ทางไสยศาสตร์   ก่อนที่จะออกไปรบประจันกับเหล่าศัตรู  โดยชุมชุมร่วมพิธีกัน  ณ  ตรงที่ตั้งพระเจดีย์องค์นี้  แล้วยกออกไปรบกับพม่าข้าศึกได้ชัยชนะมาทุกๆครั้ง   จึงได้สร้างพระเจดีย์ขึ้นไว้เพื่อเป็นนิมิตฉลองชัย คำว่า  “ไชยชุมพล”   แสดงว่าพระเจดีย์นี้สร้างขึ้นในที่ชุมพล  มิใช่สร้างขึ้นที่รบชนะเหมือนพระเจดีย์ยุทธหัตถี  แต่เมื่อชุมพลในที่นี้แล้วยกทัพไปก็มีชัยกลับมา  แต่เดิมวัดไชยชุมพลชนะสงครามบรรดาแม่ทัพนายกองของกองทัพไทยในสมัยที่ทำการรบข้าศึกได้ชัยชนะในครั้งนั้นคงเห็นว่าควรย้ายเลื่อนวัดขึ้นมาอยู่ในบริเวณเดียวกันกับเจดีย์  จึงได้เคลื่อนย้ายกันขึ้นมา  และได้ขนานนามวัดให้เหมาะสมตามชัยนิมิตนั้นว่า  “วัดไชยชุมพลชนะสงคราม”

 วัดไชยชุมพลชนะสงครามวัดไชยชุมพลชนะสงคราม

 

ขอบพระคุณข้อมูลจาก http://kri.onab.go.th/


กาญจนบุรี ไหว้พระ (K307)

 บริการรถตู้

Visitors: 109,844