อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ (Erawan Nation Park)

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

       สมัย จอมพล จอมพลเรือ จอมพลอากาศ พลตำรวจเอกสฤษดิ์ ธนะรัชต์  ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีได้มีมติการประชุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2502 ให้กระทรวงเกษตร (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในปัจจุบัน) ดำเนินการจัดตั้งป่าเทือกเขาสลอบท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี และป่าอื่นๆ ในท้องที่จังหวัดต่างๆ รวม 14 ป่า ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการสำรวจหาข้อมูลเบื้องต้น ตั้งแต่ พ.ศ. 2504-2515 โดยใช้บริเวณน้ำตกเอราวัณเป็นศูนย์กลางการสำรวจ พบว่า บริเวณป่าเทือกเขาสลอบ จังหวัดกาญจนบุรี มีธรรมชาติที่สวยงามเป็นพิเศษ และมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตหวงห้ามที่ดินตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมือง อำเภอวังขนาย อำเภอบ้านทวน และอำเภอวังกะ จังหวัดกาญจนบุรี โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่รักษาการณ์ให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว กรมป่าไม้จึงมีรายงานให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจ้งให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทย ขอเพิกถอนพื้นที่เขตหวงห้ามที่ดินบางส่วนที่เป็นป่าเทือกเขาสลอบ เพื่อเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ซึ่งคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติได้ โดยมีพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนที่ดินหวงห้ามดังกล่าวลงประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที 19 มิถุนายน 2518 และได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาสลอบ ในท้องที่ตำบลไทรโยค ตำบลท่าเสา ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค ตำบลหนองเป็ด ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ และตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2518 และให้ใช้ชื่อว่า "อุทยานแห่งชาติเอราวัณ" ตามความนิยมและคุ้นเคยของประชาชนที่รู้จักน้ำตกเอราวัณเป็นอย่างดี โดยมีเนื้อที่ประมาณ 549.9 ตารางกิโลเมตร หรือ 343,735 ไร่ นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 12 ของประเทศ 

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ 
     ครอบคลุมพื้นที่ป่าเขาสลอบ ในท้องที่ตำบลไทรโยค ท่าเสา และตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค ตำบลหนองเป็ด และตำบลช่องสะเดา อำเภอเมืองจังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่ของอุทยานฯ เอราวัณ เป็นภูเขาสูงชันสูงตั้งแต่ 165-996 จากระดับน้ำทะเลปานกลาง สลับกับพื้นที่ราบ โดยภูเขาส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาหินปูน ในแถบทิศตะวันออกและตะวันตกจะยกตัวเป็นหน้าผาบริเวณน้ำตกเอราวัณ บริเวณตอนกลางของอุทยานฯ จะเป็นแนวเขาทอดยาวสวยงาม มีเทือกเขาสำคัญๆ ทั้ง เขาหนองพุก เขาปลายดินสอ เขาหมอเฒ่า เขาช่องปูน เขาพุรางริน โดยมีเขาเกราะแกระ เป็นยอดเขาสูงสุด สูง 996 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง  ด้วยความที่มีเทือกเขาสูงมากมายทำให้ที่อุทยานฯ แห่งนี้ เป็นต้นน้ำลำธารสำคัญหลายสาย ทางด้านทิศตะวันออก มีห้วยม่องไล่ และห้วยอมตะลา ที่ไหลมาบรรจบกันเป็นน้ำตกเอราวัณ ทิศเหนือมีห้วยสะแดะที่ไหลลงสู่เขื่อนศรีนครินทร์ และห้วยหนองกบที่ไหลไปรวมกับห้วยไทรโยค เกิดเป็นน้ำตกไทรโยค ทางทิศตะวันตก และทิศใต้ ก็มีห้วยทับศิลา และห้วยเขาพัง ที่เป็นต้นกำเนิดน้ำตกไทรโยคน้อย หรือน้ำตกเขาพัง นั่นเอง


น้ำตกไทรโยคน้ำตกไทรโยคน้อย
น้ำตกไทรโยค - น้ำตกไทรโยคน้อย
     ตลอดพื้นที่เทือกเขาสูง และพื้นที่ราบของอุทยานฯ เอราวัณ ถูกปกคลุมไปด้วยป่าไม้น้อยใหญ่มากมาย แบ่งออกได้ 3 ประเภท ทั้งป่าเบญจพรรณ ที่ขึ้นปกคลุมพื้นที่ของอุทยานฯ ไว้มากที่สุด พบได้บนเทือกเขาความสูงตั้งแต่ 100-800 เมตร จากระดับน้ำทะเล ป่าเต็งรัง พบน้อยที่สุดในพื้นที่ของอุทยานฯ ส่วนใหญ่จะขึ้นบริเวณทุ่งยายหอม หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ อว.8 ลำต้น และป่าดิบแล้ง พบอยู่บนสันเขาทอดตัวเป็นแนวยาวบริเวณใจกลางของพื้นที่อุทยานฯ

     อุทยานฯ เอราวัณนั้นเป็นต้นกำเนิดลำธารสำคัญหลายสาย เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาและยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ จึงไม่แปลกที่การมาเที่ยวอุทยานฯ เอราวัณ ของนักเดินทางหลายคนนั้นจะไม่พ้นการเที่ยวชมน้ำตก และผจญภัยกับเส้นทางเดินป่าสวยงามกัน โดยน้ำตกเด่นที่ไม่ควรพลาดชมเลยนั้นก็คือน้ำตกเอราวัณ น้ำตกหินปูนสวยที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองกาญจน์

ทัวร์กาญจนบุรี 3 วัน 2 คืน K302
     อุทยานฯ เอราวัณยังมีสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย ทั้งน้ำตกผาลั่น น้ำตกหินปูนสูงชั้นเดียวจะสวยงามที่สุดในฤดูฝนเท่านั้น ถ้ำพระธาตุอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 12 กิโลเมตร เป็นถ้ำมืดขนาดใหญ่ กว้างและลึกถึง 200 เมตร มีหินงอกหินย้อยสวยงาม ถ้ำวังบาดาล อยู่ในพื้นทีหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ อว.3 วังบาดาล เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ภายในถ้ำแบ่งซอยเป็นหลายห้อง โดยห้องชั้นล่างจะมีน้ำไหลผ่านและมีปลาด้วย นอกจากนี้ยังมีถ้ำหมี และถ้ำเรือที่ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำทางไป

   หลังจากเที่ยวอุทยานฯ เอราวัณจนหายอยากแล้ว หากคุณยังมีเวลาพักผ่อนในวันสุดสัปดาห์เหลือเฟือ คุณสามารถจัดโปรแกรมขับรถเที่ยวอุทยานฯ ไทรโยค ที่ห่างจากอุทยานฯ เอราวัณเพียง 46 กิโลเมตร และอุทยานฯ เขื่อนศรีนครินทร์ที่ห่างจากอุทยานฯ เอราวัณเพียง 45 กิโลเมตร ต่อได้อีกด้วย
 

ขนาดพื้นที่

343735.00 ไร่

หน่วยงานในพื้นที่

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ที่ อว.1 (ถ้ำพระธาตุ)

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ที่ อว.2 (ปลายดินสอ)

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ที่ อว.3 (วังบาดาล)

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ที่ อว.4 (ทับศิลา)

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ที่ อว.5 (ผาลั่น)

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ที่ อว.6 (มะตูม)

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ที่ อว.7 (หนองบอน)

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ที่ อว.8 (ลำต้น)

ลักษณะภูมิประเทศ 

     อุทยานแห่งชาติเอราวัณ มีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาสูงชันอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 165-996 เมตร สลับกับพื้นที่ราบ โดยภูเขาส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาหินปูน ในแถบตะวันออกและตะวันตกของพื้นที่จะยกตัวสูงขึ้นเป็นแนวโดยเฉพาะบริเวณใกล้น้ำตกเอราวัณจะมีลักษณะเป็นหน้าผา ส่วนบริเวณตอนกลางจะเป็นแนวเขาทอดยาวในแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วยเทือกเขาที่สำคัญคือ เขาหนองพุก เขาปลายดินสอ เขาหมอเฒ่า เขาช่องปูน เขาพุรางริน และเขาเกราะแกระซึ่งเป็นยอดเขาสูงสุดประมาณ 996 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เทือกเขาเหล่านี้เป็นต้นกำเนิดของลำห้วยที่สำคัญหลายสาย สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ในพื้นที่ด้านตะวันออกนี้จะมีลำห้วยที่สำคัญคือ ห้วยม่องไล่ และห้วยอมตะลา ซึ่งไหลมาบรรจบกันกลายมาเป็นน้ำตกเอราวัณ ทางตอนเหนือของพื้นที่มีห้วยสะแดะและห้วยหนองกบ โดยห้วยสะแดะจะระบายน้ำลงสู่เขื่อนศรีนครินทร์ ส่วนห้วยหนองกบไหลไปรวมกับห้วยไทรโยคก่อให้เกิดน้ำตกไทรโยค ส่วนในพื้นที่ด้านตะวันตก และด้านใต้ ได้แก่ ห้วยทับศิลา ห้วยเขาพังซึ่งเป็นต้นกำเนิดน้ำตกที่สวยงามที่เรียกว่า “น้ำตกเขาพัง” หรือน้ำตกไทรโยคน้อย 

 อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

ลักษณะภูมิอากาศ

     สภาพภูมิอากาศของอุทยานแห่งชาติเอราวัณแบ่งออกเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มกราคม และฤดูร้อน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน อุทยานแห่งชาติเอราวัณได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือช่วยพัดพาให้เกิดฝน แต่เนื่องจากพื้นที่อยู่ในเขตเงาฝน ทำให้มีปริมาณฝนตกไม่มากนัก และอากาศค่อนข้างร้อน ลักษณะอากาศดังกล่าวจึงไม่เป็นปัญหาต่อการเที่ยวชม ทำให้สามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดู 

 

พืชพรรณและสัตว์ป่า

     สภาพป่าของอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ประกอบด้วย ป่าเบญจพรรณ มีร้อยละ 81.05 ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ขึ้นปกคลุมตั้งแต่ระดับความสูง 100 - 800 เมตร จากระดับน้ำทะเล พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ มะค่าโมง ตะเคียนหนู รกฟ้า ผ่าเสี้ยน ประดู่ ส้มเสี้ยว แต้ว มะกอก ตะแบก ขานาง มะเกลือ หว้า ฯลฯ มีไผ่ชนิดต่างๆ ขึ้นกระจายอยู่ทั่วไปหรือบางแห่งขึ้นเป็นกลุ่ม ได้แก่ ไผ่ป่า ไผ่รวก ไผ่ซางนวล และไผ่หอบ นอกจากนี้ยังมีพวกไม้เลื้อยและพืชพื้นล่าง ได้แก่ เสี้ยวเครือ นมแมว เล็บเหยี่ยว หนามคนทา ช้องแมว มะเม่าไข่ปลา ย่านลิเภา เปล้าหลวง กระทือ สังกรณี และเอื้องหมายนา เป็นต้น 

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

ป่าเต็งรัง มีร้อยละ 1.68 กระจายอยู่ในระดับความสูง 100 - 800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง บริเวณทุ่งยายหอม หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ อว.8 (ลำต้น) และบริเวณใกล้เขื่อนทุ่งนา พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ เต็ง รัง แดง ก่อแพะ มะขามป้อม อ้อยช้าง ยอป่า กรวยป่า โมกหลวง ก้างขี้มอด ส้าน เหมือดคน ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ หญ้าขน หญ้าหางเสือ เล็บแมว เถาว์กระทงลาย เป้ง ลูกใต้ใบ ผักหวาน ผักเป็ด พลับพลา และปอ เป็นต้น 

ป่าดิบแล้ง มีร้อยละ 14.35 อยู่บนสันเขาทอดเป็นแนวยาวตรงใจกลางของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และอยู่ต่ำถัดลงมาในระดับความสูงระหว่าง 600-800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และอยู่ในบริเวณที่ชุ่มชื้นตามที่ราบริมห้วย พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ยางโอน มะพลับดง ยมหิน ตะเคียนทอง สำโรง ตะคร้ำ สัตบรรณ เฉียงพร้านางแอ มะดูก พลองใบเล็ก ข่อยหนาม ชมพู่น้ำ ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ หวายขม เถากระไดลิง เข็มขาว มะลิไส้ไก่ ว่านเศรษฐี ตำแยกวาง เถาอบเชย ไผ่หนาม และเนียมฤาษี
แพลนเที่ยวกาญจนบุรี ศรีสวัสดิ์
     จากการสำรวจแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ได้แก่ สัตว์ป่าเลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก นก และสัตว์น้ำอื่นๆ รวมทั้งปลานานาชนิด ที่สำคัญและมักจะพบเห็น ได้แก่ ช้างป่า หมีควาย เลียงผา อีเก้ง กวางป่า หมูป่า ชะนีธรรมดา ค่างแว่นถิ่นเหนือ ลิงกัง ลิงลม แมวดาว อีเห็นธรรมดา กระแต เหยี่ยวกิ้งก่าสีดำ ไก่ฟ้าหลังเทา ไก่ป่า นกกวัก นกเด้าดิน นกเขาใหญ่ นกกระปูดใหญ่ นกตะขาบทุ่ง นกหัวขวานด่างแคระ นกปรอดสวน นกจาบดินอกลาย งูจงอาง งูสามเหลี่ยม งูหลาม งูเห่าตะลาน กิ้งก่าหัวสีฟ้า จิ้งเหลนบ้าน ตะพาบน้ำ คางคกบ้าน เขียดจะนา อึ่งกราย กบป่าไผ่ใหญ่ ปาดบิน ปลากั้ง ปลาเวียน ปลาหมอช้างเหยียบ ปลาตะเพียนขาว ปลากระสูบจุด ปูน้ำตก ปูตะนาวศรี ปูกาญจนบุรี เป็นต้น

แหล่งท่องเที่ยว

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีต้นน้ำมาจากยอดเขาตาม่องล่าย สายน้ำที่ไหลผ่านน้ำตกเอราวัณจะเป็นสีฟ้าเขียวมรกตใสสวยงาม ตลอดเส้นทางเดิน 2 กิโลเมตร ในการเที่ยวชมน้ำตกเอราวัณ จึงน่าเพลิดเพลินใจมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมเล่นน้ำที่น้ำตกชั้นล่างมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำกัน เพราะทางเดินขึ้นน้ำตกตั้งแต่ชั้น 4 ขึ้นไป ค่อนข้างสูงชัน โดยชั้นที่ 7 ชั้นบนสุดเป็นชั้นที่สวยงามที่สุด เมตร มีทางเดินชมน้ำตกไปถึงช้ันที่ ๖ ต่อจากนั้นนักท่องเที่ยวต้องปีนป่ายพอสมควรกว่าจะถึงชั้นที่เจ็ด แม้ว่าจะลำบากด้วยการปีนป่าย แต่ก็คุ้มค่ากับความพยายามสำหรับความสวยงามของน้ำตกที่สายน้ำแตก กระจายกระทบเจาะพื้นหินเข้าจนกลายเป็นสระเล็ก ๆ ลึก ส่วนบนสุดของน้ำตกชั้นมีรูปร่างคล้ายกับเศียรของพญาช้างสารเอราวัณสามเศียรในตำนานของฮินดู สายน้ำจะไหลพุ่งลงมาตามหน้าผามองดูคล้ายกับเศียรช้างสวยงามสมกับชื่อน้ำตกเอราวัณจริงๆ

ถ้ำพระธาตุ

ถ้ำพระธาตุ - ณ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ ๑๒ จากสำนักงานใหญ่ เป็นถ้ำขนาดใหญ่มีความสวยงามเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย ลักษณะทางธรณีวิทยาเขาหินปูนปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนที่กำแพง    ผนังถ้ำ
ถ้ำหมี - ชื่อของถ้ำปรากฏตามความเชื่อของคนท้องถิ่นว่าถ้ำนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของหมี ภายในถ้ำประกอบไปด้วยห้อง ๕ ห้องเต็มไปด้วยหินรูปร่างแปลก หินงอกและหินย้อย
ถ้ำวังบาดาล - เป็นถ้ำเขาหินปูนขนาดใหญ่แต่มีปากถ้ำที่แคบ มีห้องต่าง ๆ ภายในถ้ำ และที่พื้นล่างมีน้ำใหลผ่านตลอดไป ในแต่ละห้องยังมีหินงอกหินย้อยที่ระยิบระยับตา (หินกากเพชร) มีชื่อเรียกตามความเชื่อท้องถิ่นต่าง ๆ กัน เช่น ม่านพระอินทร์ , เข็มนารายณ์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเข็มเย็บผ้าขนาดใหญ่ ถ้ำตั้งอยู่ ๕๔ กิโลเมตรจากอาคารสำนักงาน และปากทางเข้าถ้ำอยู่ห่างจาก หน่วยคุ้มครองป่าที่วังบาดาลประมาณ ๑ กิโลเมตร

กิจกรรม

มีทั้งกิจกรรมเดินป่าและศึกษาธรรมชาติ ดูนก ชมถ้ำ ว่ายน้ำเส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาหินลานผี มีความยาวประมาณ ๕ กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ ๓ ชั่วโมง สภาพป่าเป็นประเภทเบญจพรรณ  ดิบเขาและผลัดใบ เส้นทางเดินสิ้นสุดที่ชั้นที่ ๕ ของน้ำตกเอราวัณเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าดิบเขามองเลย์ เส้นทางเดินป่าเส้นนี้คดเคี้ยวไปมาตามน้ำตก ผ่านป่าอันสงบเงียบพร้อมทั้งมีสัญลักษณ์ตีความหมายธรรมชาติติดอยู่ตามที่ต่าง ๑๒ แห่งใช้เวลาประมาณ ๕๐ นาที  

ที่พัก

บังกะโลภายในอุทยานสำหรับ ๒ ถึง ๘ ท่าน บางหลังมีเครื่องปรับอากาศ, ที่ตั้งเต้นท์มีไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวเช่นกันบริเวณอาคารสำนักงาน, การเดินทางสู่อุทยานสามารถเดินทางไปกลับได้ภายในวันเดียวจากจังหวัดกาญจนบุรี

 อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

การเดินทาง : จากตัวเมืองจังหวัดกาญจนบุรี ขับรถตามถนนทางหลวงหมายเลข 3199 จนถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเขื่อนศรีนครินทร์ จากนั้นให้ขับรถข้ามสะพานมุ่งหน้าไปยังตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ รวมระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ เอราวัณ แล้ว

รถยนต์ 
- รถยนต์ส่วนบุคคล ไปตามถนนเพชรเกษมหรือไปตามถนนบรมราชชนนี ผ่านนครชัยศรี บ้านโป่ง ท่ามะกา ท่าม่วง ถึงจังหวัดกาญจนบุรี รวมระยะทาง 129 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง สำหรับการเดินทางจากตัวเมืองกาญจนบุรีไปยังอุทยานแห่งชาติเอราวัณสามารถใช้ได้ 2 เส้นทาง คือ สายที่ 1 เริ่มต้นจากจังหวัดกาญจนบุรีไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3199 ถึงเขตของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเขื่อนศรีนครินทร์ ข้ามสะพานไปยังตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ แล้วจึงเลยเข้าไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 70 กิโลเมตร สายที่ 2 เดินทางจากอุทยานแห่งชาติไทรโยค จะมีเส้นทางบริเวณบ้านวังใหญ่อยู่ห่างจากน้ำตกไทรโยคน้อยประมาณ 6 กิโลเมตร ลัดออกไปบ้านโป่งปัดบริเวณเขื่อนท่าทุ่งนาระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนหมายเลข 3199 อีกประมาณ 25 กิโลเมตรถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเอราวัณ 

รถไฟ 
รถไฟ ออกจากสถานีรถไฟบางกอกน้อยวันละ 2 เที่ยว ได้แก่ เวลา 07.50 น. และ 13.45 น. โดยแวะจอดที่สถานีกาญจนบุรี สะพานข้ามแม่น้ำแคว ท่ากิเลน สถานีน้ำตก ในวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดราชการ มีรถไฟเที่ยวพิเศษ นำเที่ยวไปกลับภายในวันเดียว ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ สถานีรถไฟกาญจนบุรี โทร. 0-3451-1285 

ทัวร์กาญจนบุรี+โฮมสเตย์ KH302
รถโดยสารประจำทาง 
รถโดยสารธรรมดา/รถโดยสารปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ทุก 15 นาที ตั้งแต่เวลา 04.00-20.30 น. ถึงจังหวัดกาญจนบุรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที หลังจากนั้นเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากสถานีขนส่งกาญจนบุรี หมายเลข 8170 กาญจนบุรี-เอราวัณ ทุก 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 08.00-17.20 น. เพื่อเดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที รวมระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร หรือออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ชั้น 1 ช่อง 21 สายกรุงเทพฯ-ด่านเจดีย์สามองค์ ตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น. โดยแวะจอดที่สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที หลังจากนั้นเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางสายกาญจนบุรี-เอราวัณ เพื่อเดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ 

ช่วงเวลาท่องเที่ยว : ตลอดปี แต่ช่วงปลายฤดูฝนจนถึงต้นฤดูหนาว จะสวยและน่าเที่ยวที่สุด

สิ่งอำนวยความสะดวก : ในด้านสิ่งอำนวยความสะดวก อุทยานฯ เอราวัณ มีบ้านพักบริการนักท่องเที่ยวไว้อย่างเพียงพอ คุณสามารถเลือกพักได้ทั้งแบบบ้านพักเดียวแยกหลัง อยู่บนเนินเขา บ้านพักแฝดที่เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ บรรยากาศริมธารน้ำตกเอราวัณ หรือจะเป็นค่ายพักแรมที่ออกแบบมาเพื่อชาวค่ายโดยเฉพาะ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควใหญ่ สำหรับคนที่อยากนอนกลางดิน กินกลางทราย ที่นี่ก็มีลานกางเต็นท์บริการด้วยเช่นกัน

ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://www.westernforest.org/th/areas/erawan.htm
http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1011
https://www.ท่องทั่วไทย.com

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

ล่องแพเปียก กาญจนบุรี
บริการรถตู้ กาญจนบุรี

Visitors: 109,573