พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ

 

วัดเขาทำเทียม (จุดเริ่มต้นการเผยแพร่ศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ)
ณ พื้นที่แห่งนี้ยังมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน โดยมีการสันนิษฐานกันว่า วัดเขาทำเทียม ซึ่งเป็นที่ตั้งของ พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ เป็นวัดแห่งแรกในประเทศไทย หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานได้ 300 ปี พระโมคคัลลีบุตรติสสะเถระก็ได้ทำการสังคายนาหรือการรวบรวมพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ครั้งที่ 3 โดยพระเจ้าอโศกมหาราชแห่งอินเดีย เป็นพระอุปถัมภ์ ส่งพระโสณะ และพระอุตตรเถระ เดินทางมาเผยแพร่พุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ พร้อมจารึกภาษาสันสกฤตโบราณบนแผ่นศิลาไว้ว่า ปุษยคิริ หรือ ปุษยคีรี ซึ่งมีความหมายว่า ภูเขา ดอกไม้ เพราะเนื่องจากบนภูเขามีดอกไม้ที่สวยงาม ที่ประกอบด้วย ดอกสุพรรณิกา (สมอฝ้าย) ดอกงิ้วป่าสามสี เป็นที่น่าอัศจรรย์ ที่ชื่อ ปุษยคิริ ซึ่งพ้องกับชื่อภูเขา ปุษยคีรีสังฆาราม ในเมืองสาญจี รัฐโอริสสา ประเทศอินเดีย นั่นเอง
สำหรับชื่อวัดเขาทำเทียมนั้น หมายถึง วัดที่สร้างคู่กับวัดเขาพระ เพราะคำว่าเทียมมีความหมายว่า คู่กัน โดยในปี พ.ศ. 2460 ได้รับการอนุญาตให้สร้าง พระพทธปุษยคีรีศรีสุวรรณ พร้อมกับ วัดเขาพระ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ในปี พ.ศ. 2571

ภายในวัดเขาทำเทียม มีโบราณสถานที่น่าสนใจประดิษฐานอยู่ 

พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง)

        

พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง)
บริเวณแห่งนี้ หุบผาเขาด้านในสุด ทางทิศตะวันตกของเมืองอู่ทอง ที่ผ่านการระเบิดเพื่อทำเหมืองหินมาก่อน ประกอบกับมีศิลาจารึก หลักหนึ่งซึ่งมี การอ่านระบุถึง "บุษยคีรี " ที่พ้องกับ "บุษยคีรี" ในอินเดียโบราณสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช คณะสงฆ์จังหวัดสุพรรณบุรีและวัดป่าเลไลยก์วรวิหารจึงต้องการที่จะพัฒนา โบราณสถานแห่งนี้เป็นพุทธมณฑลแห่งสุพรรณบุรีด้วยการแกะสลักพระใหญ่ที่มีชื่อว่า "สมเด็จพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ" ปางโปรดพุทธมารดา พร้อมคูหาหินรายล้อม เป็นพระพุทธรูปในอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิ โดยแกะสลักด้วยหินธรรมชาติ และเป็นพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาใหญ่ ที่สุดในโลก และอาจจะเป็นถึงอชันตาของประเทศไทยเลยทีเดียว

สถานที่ที่เปรียบดั่งพุทธมณฑลประจำจังหวัดสุพรรณบุรีแห่งนี้ นอกจากจะเป็นประติมากรรมอันงดงามและยิ่งใหญ่แล้ว ที่นี่ยังเป็นทั้ง แหล่งเรียนรู้ของทั้งเยาวชน ประชาชนทั่วไป และพุทธศาสนิกชนที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ จากการสนับสนุนของหน่วยงานจากภาครัฐ โดยเฉพาะ อพท. ที่เข้ามาช่วยพัฒนาและเปลี่ยนแปลงสถานที่ให้เป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบในระยะยาว สมกับคำนิยามของพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิที่ว่า "หนึ่งเดียวในไทย ยิ่งใหญ่ในโลก มรดกคู่ฟ้าดิน"

พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ
เป็นจุดอันซีนอีกมุมของดินแดนโบราณอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ทั้งพระพุทธรูปที่แกะสลักมาจากหน้าผาหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ องค์พระที่มีความวิจิตรงดงามด้วยลายหินอ่อน รวมถึง บรรยากาศที่สวยงามน่าหลงใหล เป็นที่น่ามาสักการะพระองค์สักครั้งหนึ่งในชีวิต

พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง)

         โครงการก่อสร้างองค์พระ เกิดจากการดำริของพระเทพสุวรรณโมลี (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘) ที่ปรึกษาเจ้าคณะ จ.สุพรรณบุรี และเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร บนผาสูงใหญ่เสียดฟ้า ที่มีชื่อว่า "ผามังกรบิน" ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่กรมศิลปากรยืนยันว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแพร่พระพุทธศาสนาและเป็นศูนย์กลางของดินแดนสุวรรณภูมิ จุด ก่อกำเนิด วัฒนธรรม ประเพณีและศิลปะมากมาย ด้วยความสวยงามแปลกตาและหน้าผาหินที่รายล้อมองค์จึงทำให้โบราณสถานแห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีเลยทีเดียว

พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง)

พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง)
อุโมงค์หิน สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
นอกจากองค์ ‘พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณ’ที่ตั้งตระหง่านสะดุดตาแล้วนั้น ถ้าเดินมาที่ด้านหลังองค์พุทธรูปแล้วก็จะพบกับ อุโมงค์ขนาดใหญ่ ซึ่งในจังหวะที่ย่างเท้าเข้ามาก็จะได้สัมผัสกับความเย็นสบายของลมที่พัดผ่านให้ได้รู้สึกถึงความร่มเย็นเป็นสุขของสถานที่แห่งนี้ และ เนื่องจากเดิมแล้ว ที่แห่งนี้เคยเป็นเขตสัมปทานระเบิดภูเขาทำโรงโม่หิน ก่อนจะหมดสัญญาและทิ้งให้รกร้าง แล้วต่อมา ทางองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. จึงเข้ามาปรับทัศนียภาพด้านหน้าองค์พระให้สวยงามน่ามอง เมื่อเดินทางเข้ามาภายในจะเห็นทั้งภาพน้ำตกธรรมชาติ สายน้ำไหลเย็น และความเขียวขจีของภูเขาที่มีทั้งต้นไม้น้อยใหญ่อันอุดมสมบูรณ์ พร้อมแอ่งน้ำขนาดใหญ่

นอกจากนี้ด้านในยังมีพระแม่ธรณีบีบมวยผมประดิษฐานอยู่ ซึ่งพระแม่ธรณีนั้น นับได้ว่าเป็น ''มารดาของแผ่นดิน'' เปรียบเสมือนเป็นจุดก่อเกิดทุกสรรพสิ่งทั้งปวงในโลก จึงเปรียบดั่ง ''ผู้หล่อเลี้ยงโลก'' รวมถึงพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ประดิษฐานอยู่ที่ ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้หลั่งไหลกันเข้ามาสักการบูชาขอพรต่างๆเพื่อเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเองและคนที่รัก รวมถึงยังใช้เป็นสถานที่ในการประกอบศาสนกิจในวันสำคัญต่าง ๆ ทางพุทธศาสนาอีกด้วย 

 สุพรรณฯ ผุดสกายวอล์ก เขาทำเทียม ไร้เสาค้ำ ยาวสุดในประเทศ เจาะยึดกับภูเขา พื้นกระจกมองเห็นเบื้องล่าง
   วันที่ 17 มี.ค. 2566 จ.สุพรรณบุรี สร้างสกายวอล์กไม่มีเสาค้ำยาวที่สุดในประเทศไทย ที่พุทธมณฑลประจำจังหวัดสุพรรณบุรี เขาทำเทียม เขตโบราณสถานเมืองอู่ทอง อ.อู่ทอง ซึ่งเป็นที่ตั้ง ของพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือหลวงพ่ออู่ทอง พระพุทธรูปแกะสลักภูผาใหญ่ที่สุดในโลก

            สกายวอล์ก เขาทำเทียม อู่ทอง สุพรรณบุรี  สกายวอล์ก เขาทำเทียม อู่ทอง สุพรรณบุรี
            สกายวอล์ก เขาทำเทียม อู่ทอง สุพรรณบุรี  สกายวอล์ก เขาทำเทียม อู่ทอง สุพรรณบุรี 

 

สกายวอล์ก ดังกล่าวมีความยาวประมาณ 500 เมตร สูง 32 เมตร พื้นกระจกมองเห็นเบื้องล่าง จะมีลิฟท์แก้วให้คนได้ขึ้นไปเพื่อชมทิวทัศน์ความสวยงามของพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ตอนนี้ได้ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 153 ล้านบาท เพื่อสร้างจุดชมวิวให้กับนักท่องเที่ยวได้ชมความงามนี้แล้วถือว่าคุ้มค่า โดยการของบจากกลุ่มจังหวัด สร้างขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2563 คาดจะเสร็จสิ้นประมาณต้นปี 2568

 การก่อสร้างจะเจาะภูเขาเข้าไปที่ชั้นหินที่มีความหนาแน่นสูง และใช้ขาเกาะยึดกับผนังภูเขา ฝังเหล็กข้ออ้อยหนา 24 มิลลิเมตร จำนวน 6 เส้น ยึดติดกับแป้นผนัง เราจะทำให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด ใช้วิศวกรที่เชี่ยวชาญทุกด้าน รับรองว่ามีความมั่นคงแข็งแรงแน่นอน เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัยและสวยงามที่สุด ให้นักท่องเที่ยวชมบรรยากาศได้อย่างเต็มที่

สกายวอล์ก เขาทำเทียม อู่ทอง สุพรรณบุรี



การเดินทาง ไปยัง พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ

     ถ้ามาจากทาง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี ให้ขับมาบนถนนมาลัยแมน พอถึงบริเวณหอนาฬิกา อำเภออู่ทองแล้ว จะเห็นป้ายบอกให้ไป หลวงพ่ออู่ทอง ก็ให้ตามป้ายไป เข้าซอยถนนท้องถิ่น ก็จะเจอแยกซ้าย-ขวา ให้เลี้ยวขวาตามทางไปเรื่อยๆ พอหลังจากผ่านวัดเขาทำเทียมไปแล้ว ก็จะเจอพื้นที่โล่งกว้าง แล้วก็จะเจอกับหน้าผาภูเขาที่แกะสลักหินค่ะ

ข้อมูล พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ สุพรรณบุรี

  • ที่อยู่ : วัดเขาทำเทียม ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/jwARCpCK62pL13Yn9 
  • เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น.
  • โทร : 093-008-0539, 083-618-7830, 035-960441.
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/luangporutong 
Visitors: 110,440