วัดเขาถ้ำเสือ

วัดเขาถ้ำเสือ วัดในโครงการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่ ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัด สุพรรณบุรี

ประวัติวัดเขาถ้ำเสือ
        ครูเหนียน กมลสมจิต เป็นบุตร คุณพ่อรอด คุณแม่ตุ่ม มีน้อง 5 คนคือ นายหมายและนายบุญหนักสมัยเด็กๆ ได้ชักชวนเพื่อนมาเที่ยวเขาถ้ำเสือและขุดค้นหาพระอยู่เสมอ จนมีจิตใจผูกพันกับเขาถ้ำเสือ ซึ่งเป็นสถานที่สงบร่มเย็นน่าอยู่จึงบอกกับเพื่อนที่ไปด้วยว่าเมื่อโตขึ้นจะมาสร้างวัดที่เขานี้และนี่เป็นดำริครั้งแรก

        ความดำริครั้งที่สอง อยู่ต่อมาอีก ๕-๖ ปี ทางอำเภอจรเข้สามพันได้เปิดรับสมัครครู ครูเหนียนก็ไปสมัครและสอบได้เป็น ครูที่โรงเรียนวัดดอนมะเกลือ ต่อมาได้ย้ายมาที่โรงเรียนบ้านจรเข้สามพัน อยู่ได้ไม่กี่ปีก็เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ครูเหนียนก็ได้ เข้าร่วมกับฝ่ายเสรีไทย ได้ไปฝึกอาวุธที่เขาจำศีล ขณะที่ฝึกอาวุธได้มีประสบการณ์จากพระถ้ำเสือ จึงเกิดแรงศรัทธา ตั้งใจว่าถ้ามี โอกาสจะมาสร้างวัดเขาถ้ำเสือแน่ พ.ศ. ๒๕๐๙ ครูเหนียนพร้อมด้วยคณะ มีพระอาจารย์ลำเจียก จากวัดศาลาตึก อ.กำแพงแสน หลวงน้าป่วน อาจารย์สมใจ ได้มาดูสถานที่แล้วมีความพอใจมาก ในปีเดียวกันเดือนหก พระอาจารย์สมใจ กลับจากธุดงค์ ก็ ได้มาอยู่และจำพรรษาในถ้ำเป็นองค์แรก ปีต่อมาหลวงน้าป่วนก็ได้มาอยู่ด้วย ครูเหนียน นางสาลี และลูกๆ ได้ช่วยกันอุปถัมภ์ และได้ชักชวนเพื่อนครูด้วยกันมีครูมนูญ วีระเสนา ครูเสริม มีเนตรทิพย์ ครูจั่ว ครูไพโรจน์ นายป่วย ปัจจุบันนี้บวชเป็นพระ และเพื่อนๆ ในจระเข้สามพันร่วมกันสร้างวัดในตอนแรกเขาถ้ำเสือนั้นรกมากและไม่มีทางเข้าวัดต้องอาศัยเดินทางวัว คุณแม่หรือ และนายแข่งได้ถวายที่ดินเป็นทางเข้าเป็นรายแรก และมีอีกหลายรายจนถึงวัด ครูเหนียนได้ขออนุญาตตั้งสำนักสงฆ์กับหลวง พ่อสงัด และเจ้าคณะอำเภอ
        

         ต่อมาคุณประสงค์ ปราบสิทธิ์ เจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์ อยู่จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มาช่วยสร้างกุฏิ และ พระปางพาหุง พร้อมด้วยลอยพระพุทธบาทหินจำลอง ครูเหนียนได้รวบรวมหลังฐานต่างๆ เพื่อขออนุญาตสร้างวัด และได้รับ อนุญาตสร้างเมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ และได้ ประกาศตั้งเป็นวัดเมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๔ ต่อมาพระเดชพระ คุณพระสุวรรณโมลี อดีตเจ้าคณะอำเภออู่ทอง เจ้าอาวาสวัดโพธาราม ได้มาเป็นประธานในการสร้างอุโบสถ โดยมีคุณหญิง ชื่น กสิโสภา เป็นเจ้าภาพสร้างอุโบสถในเบื้องต้น และสร้างศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ และได้ทำเรื่องขอวิสุงคามสีมาได้รับพระราช ทานวิสุงคามสีมา วันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๓ จัดงานปิดทองฝังลูกนิมิต เมื่อวันที่ ๔ - ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๖ และสวดผูกพัทธสีมาวันอาทิตย์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๖ ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะเส็ง

วัดเขาถ้ำเสือ
         วัดเขาถ้ำเสือมี อายุประมาณ 1,300 ปี สันนิษฐานว่าพระเถราจารย์นักบวช และพระฤาษีเป็นผู้สร้างวัดเขาถ้ำเสือเมื่อประมาณปี พ.ศ.2220 ในสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช วัดเขาถ้ำเสือได้สร้างพระพุทธรูปถ้ำเสือจำลองไว้ให้


พระถ้ำเสือ
         พระถ้ำเสือเป็นพระพิมพ์ดินเผา ที่ได้รับการกล่าวขานว่า เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ โดยมีการค้นพบพระถ้ำเสือในบริเวณวัดถ้ำเสือ สันนิษฐานว่ามีอายุไม่น้อยกว่า 1,300 ปี สร้างโดยพระเถราจารย์ นักบวช และพระฤๅษี แต่ยังไม่มีบทสรุปเป็นที่แน่ชัด


ธัมเมกขะสถูป
        พุทธานุสรณ์สถานการแสดงพระปฐมเทศนา ธัมมะจักกัปปะวัตตะนะสูตร ท่านพระอัญญาโกณฑัญญะ ฟังแล้วได้ดวงตา “เห็นธรรม” ทูลขออุปสมบทเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนาพระรัตนตรัยครบบริบูรณ์ ในวันนั้น อาสาฬหบูชา ๑๕ ค่ำเดือน ๘ ก่อนพุทธศักราช ๔๔ปี ๒ เดือน


ลานธรรมจักร วัดเขาถ้ำเสือ
ลานธรรมจักร วัดเขาถ้ำเสือ ธรรมจักรในศาสนาพุทธและฮินดู เป็นสัญลักษณ์แทนวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิด หรือวงเวียนแห่งการ ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธองค์


เสาอโศกมหาราช
       เสาอโศก ในบริเวณวัดเขาถ้ำเสือ เสาอโศก มีความหมายของการแสดงความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ของพระเจ้าอโศกมหาราชที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง ได้มีการเผยแพร่พระพุทธศาสนาไปยังพื้นที่ต่างๆ


พระไสยาศน์ วัดเขาถ้ำเสือ
พระพุทธรูปปางไสยยาศน์ วัดเขาถ้ำเสื้อ เป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาร่วมกันสร้าง


หลวงพ่อพอดี
พระพุทธรูปใหญ่สีขาว ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาวัดเขาถ้ำเสือ

ประวัติพระถ้ำเสือ
            กำเนิดกรุ “พระถ้ำเสือ” หนึ่งในพระเครื่องของจังหวัดสุพรรณบุรี
เราจะพาทุกคนย้อนรอยถอยหลังไปก่อนปีพุทธศักราช ๒๔๙๐ ว่ากันว่าได้มี ชาวบ้านหาขี้ค้างคาวและเลี้ยงวัว ไปพบพระในถ้ำบริเวณเขาคอก ซึ่งในสมัยนั้นเนี่ยยังเป็นป่ารก มีเสือเคยอาศัยอยู่ในถ้ำ และที่พบมีศิลปะที่ต่างจากพระทั่วไป เพราะพบพระในถ้ำที่มีเสือเคยอาศัยอยู่ จึงเรียกว่า “พระถ้ำเสือ” บริเวณด้านบนปากถ้ำ และบนเขามีซากฐานเจดีย์อยู่มาก สันนิษฐานกันว่า เมื่อเจดีย์พังลงมาพระ ได้กระจายไปทั่วบริเวณ พระส่วนหนึ่งได้ไหลตามน้ำลงไปในถ้ำอีกด้วย
            และต่อมาได้พบพระที่มีลักษณะคล้ายกันหลายที่ เช่น วัดเขาทำเทียม วัดเขาพระฯ วัดหลวง วัดเขากุฏิ วัดเขาดีสลักฯ จึงเรียกชื่อตามกันว่า "พระถ้ำเสือ”พุทธลักษณะของพระถ้ำเสือต่างจากพุทธศิลป์สมัยต่างๆ มีลักษณะเฉพาะ คือ ทําอย่างหยาบ ไม่ เรียบร้อย มีหลากหลายพิมพ์ ต่างคนต่างทํา เพื่อพิธีกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง สถานที่ต่าง ๆ ที่พบพระที่อยู่ในเขตเมืองอู่ทอง ใครเป็นผู้สร้างไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนบางกระแสก็ว่าฤๅษีเป็นผู้สร้าง หรือชาวบ้านสร้างแล้วเอามาบรรจุไว้ในเจดีย์บนเขาหรือในถ้ำต่าง ๆ


            สรุป พระถ้ำเสือเป็นพระกรุเนื้อดินเผา มีแร่ผสมอยู่หลายอย่าง มีอายุหลายร้อยปี มีกระจายอยู่ทั่วในเขตเมืองอู่ทอง มีพุทธลักษณะเฉพาะ ปัจจุบันหายากมาก และได้รับความสนใจจากนักสะสม จึงมีการทำเทียมและลอกเลียนแบบ การได้สักการะบูชาขอพรที่พระถ้ำเสือ เชื่อว่าจะมีบุญบารมี มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ผู้คนเคารพนับถือ สำหรับพระถ้ำเสือ ที่ไว้บูชาเชื่อว่ามีพุทธคุณเป็นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นด้านคงกระพันชาตรี มหาอำนาจ เสริมบุญบารมี บันดาลโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง พระพุทธรูปโบราณแกะสลักนูนตั้งเด่นเห็นชัดจุดที่ต้องไหว้สักการะเพื่อขอพรเสริมสิริมงคลให้ตัวเอง เผื่อพระกรุใดกรุหนึ่งถูกทำลายไปก่อนก็ยังเหลือพระกรุอื่นๆ ไว้เป็นสมบัติของอนุชนรุ่นหลัง ซึ่งถือเป็นแนวคิดที่ดีมากๆ และคนรุ่นหลังอย่างเราก็ยังได้มีโอกาสเห็นและกราบไหว้จริงๆ
 

         “ อู่ทอง” นอกจากมีแต่วัดแล้วเนี่ย ทุกคนคงยังไม่รู้สินะ ว่ามี น้ำตกลับ อยู่ข้างๆวัดเขาถ้ำเสือ ทำบุญขอพรเสริมสิริมงคลเสร็จก็ไปเล่นน้ำผ่อนคลายกันต่อเลย


น้ำตกพุม่วง
            น้ำตกพุม่วง ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ. สุพรรณบุรี นักท่องเที่ยวต่างพาครอบครัวหอบลูกจูงหลานมาท่องเที่ยวพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์ ภายในบริเวณน้ำตกพุม่วง ในวนอุทยานพุม่วง ที่เคยมีน้ำตกที่สวยงามเมื่อกว่า 10 ปีก่อนแต่เจอพิษของภัยแล้งทำให้น้ำตกกลายเป็นลำห้วยที่แห้งแล้ง แต่มาวันนี้น้ำตกพุม่วงกลับฟื้นคืนชีพอีกครั้ง จึงมีนักท่องเที่ยวทั้งจากในพื้นที่ อ.อู่ทอง และต่างจังหวัดเดินทางมาเที่ยวกันจำนวนมาก น้ำตกพุม่วงตั้งอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาตะโกปิดทองและป่าเขาเพชรน้อย มีเนื้อที่1,725 ไร่ น้ำตกพุม่วงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภออู่ทอง อาศัยปริมาณน้ำฝนช่วงที่มีฝนตกชุก ทำให้มีน้ำตกไหลลงมาช่วงเดือนตุลาคม ถึงเดือนธันวาคม โดยช่วงต้นเดือนตุลาคม ได้มีฝนตกชุกทำให้มีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากที่ด้านบนยอดเขาทำให้มีประมาณน้ำจำนวนมากไหลลงที่บริเวณน้ำตกเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ น้ำตกมีความสวยงาม ป่าไม้เขียวขจี ธรรมชาติมีความสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวต่างพาครอบครัวลูกเล็กเด็กแดงเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนเล่นน้ำตกกันกันจำนวนมาก นอกจากน้ำตกที่สวยงามในช่วงนี้แล้วที่น้ำตกพุม่วง แห่งนี้ยังมีจุดชมวิว อยู่บนยอดเขา สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของ อำเภออู่ทอง และมีผีเสื้อมาบินให้ได้ชมกันจำนวนมากเลยค่า

รายละเอียดน้ำตกพุม่วง

รายละเอียดวัดเขาถ้ำเสือ

เเผนที่เดินทาง